สร้างอาคารจอดรถกี่ชั้นดี

สร้างอาคารจอดรถ

“อาคารจอดรถที่ดี ไม่ได้วัดกันแค่ชั้นที่สูงขึ้น แต่ต้องตอบโจทย์ทั้งการใช้สอย พื้นที่ ความคุ้มค่า และการบริหารจัดการในระยะยาว”

ปัญหาพื้นที่จอดรถไม่เพียงพอ กลายเป็นหนึ่งในโจทย์ใหญ่ของโครงการพัฒนาเมือง พื้นที่เชิงพาณิชย์ โรงพยาบาล และอาคารสำนักงานแทบทุกแห่ง โดยเฉพาะในเขตเมืองที่ที่ดินมีราคาสูง การเลือกสร้างอาคารจอดรถจึงเป็นทางออกที่นิยมมากขึ้น

คำถามที่มักเกิดขึ้นเสมอคือ: “ควรสร้างอาคารจอดรถกี่ชั้นดี?”
คำถามนี้ดูเหมือนเรียบง่าย แต่คำตอบกลับซับซ้อนกว่าที่คิด เพราะการตัดสินใจไม่ใช่แค่เรื่องของจำนวนรถที่ต้องรองรับเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับกฎหมาย ข้อจำกัดด้านโครงสร้าง งบประมาณ และวิธีบริหารอาคารในระยะยาว

บทความนี้จะพาคุณวิเคราะห์ทุกมุมมองที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ พร้อมแนะแนวทางการวางแผนออกแบบและสร้างอาคารจอดรถอย่างมืออาชีพ

ทำไมการวางแผน “จำนวนชั้น” จึงเป็นหัวใจสำคัญของอาคารจอดรถ?

ก่อนจะตัดสินใจว่าควรสร้างกี่ชั้น เราต้องเข้าใจว่า “จำนวนชั้น” ส่งผลโดยตรงต่อสิ่งต่อไปนี้:

  • จำนวนรถที่รองรับได้ (Capacity)
  • ต้นทุนในการก่อสร้างและบำรุงรักษา
  • แรงดันโครงสร้างและความซับซ้อนด้านวิศวกรรม
  • ความสะดวกในการเข้า-ออกของผู้ใช้งาน
  • ข้อกฎหมาย เช่น FAR (Floor Area Ratio), ความสูงอาคาร

การออกแบบที่ดี จึงต้อง “คำนวณย้อนกลับ” จากความต้องการที่แท้จริง ไม่ใช่แค่สร้างให้สูงที่สุด หรือถูกที่สุด

ปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจว่าจะสร้างอาคารจอดรถกี่ชั้น

1. พื้นที่ดิน (Plot Size)

หากคุณมีที่ดินขนาดใหญ่ อาจออกแบบอาคารแนวราบ 2-3 ชั้น ก็เพียงพอโดยไม่ต้องสูงมาก แต่ถ้ามีที่จำกัด เช่น โครงการในเขตเมืองชั้นใน อาคารสูง 5–8 ชั้นอาจเป็นคำตอบที่สมเหตุสมผล

2. จำนวนรถที่ต้องการรองรับ

นี่คือปัจจัยหลักที่สุด ตัวเลขนี้ควรมาจากการวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริง เช่น:

  • จำนวนผู้ใช้งานในช่วงเวลาเร่งด่วน
  • กิจกรรมของอาคาร เช่น คอนโด/โรงพยาบาล/ห้าง
  • ปริมาณรถต่อยูนิตหรืออัตราการหมุนเวียนของที่จอด

3. กฎหมายควบคุมอาคารและผังเมือง

  • กำหนดความสูงของอาคาร (เช่น ไม่เกิน 23 เมตรในพื้นที่สีเหลือง)
  • อัตราส่วนพื้นที่จอดรถที่กฎหมายบังคับ เช่น 1 ที่จอด / 120 ตร.ม. พื้นที่อาคาร
  • การเว้นระยะร่นจากเขตถนน/พื้นที่ใกล้เคียง

4. ระบบการจอดรถที่ใช้ (Manual vs Automatic Parking)

หากคุณใช้ระบบอัตโนมัติ เช่น Stack Parking หรือระบบลิฟต์จอดรถ อาคารอาจไม่ต้องมีหลายชั้นก็รองรับรถได้จำนวนมาก

5. ต้นทุนก่อสร้างและการดูแลรักษา

จำนวนชั้นที่เพิ่มขึ้น = ต้นทุนโครงสร้าง + ระบบลิฟต์ + ระบบดับเพลิง + บำรุงรักษาสูงขึ้น
การคำนวณ Cost per Car จะช่วยให้รู้ว่า “จำนวนชั้นที่เพิ่มขึ้น คุ้มค่าหรือไม่”

ตัวอย่างการคำนวณเบื้องต้น: พื้นที่จอดรถต่อคัน

โดยเฉลี่ยแล้ว การออกแบบที่จอดรถหนึ่งคัน จะใช้พื้นที่ประมาณ:

  • 30–35 ตร.ม. สำหรับการจอดแนวขวางพร้อมพื้นที่หมุนรถ
  • หรือ ~300 ตร.ม. ต่อ 8–10 คัน (ขึ้นอยู่กับรูปแบบการจอด)

หากคุณมีพื้นที่ใช้สอยอาคาร 1,500 ตร.ม. ต่อชั้น และต้องการจอด 150 คัน
อาคารจอด 5 ชั้น (รวมชั้นใต้ดินถ้ามี) จะเพียงพอ และมีเผื่อการหมุนเวียนของรถ

ตารางเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียตามจำนวนชั้น

จำนวนชั้นข้อดีข้อเสีย
1–2 ชั้นก่อสร้างเร็ว / ต้นทุนต่ำ / ดูแลง่ายใช้พื้นที่มาก / ไม่เหมาะในเมือง
3–5 ชั้นสมดุลระหว่างขนาดและต้นทุน / รองรับรถมากขึ้นเริ่มมีค่าใช้จ่ายเรื่องโครงสร้างและระบบไฟฟ้า
6–8 ชั้นเหมาะกับโครงการเมืองใหญ่ / ใช้พื้นที่ดินน้อยต้องใช้ลิฟต์รถ / ระบบระบายอากาศ / งบสูงขึ้น
9 ชั้นขึ้นไปรองรับรถจำนวนมาก / ใช้พื้นที่ดินน้อยที่สุดต้องใช้วิศวกรรมพิเศษ, ระบบป้องกันไฟฟ้าระดับสูง, งบสูง

แนวทางการออกแบบอาคารจอดรถอย่างมืออาชีพ

  1. เริ่มจากวิเคราะห์ความต้องการ (Parking Demand Study)
    ใช้ข้อมูลจริงของผู้ใช้งาน พฤติกรรมการจอด และช่วงเวลา Peak
  2. เลือกโครงสร้างที่เหมาะสม (คอนกรีต / เหล็ก / ระบบสำเร็จรูป)
    คำนึงถึงน้ำหนักบรรทุก, ความสูง, และต้นทุนในระยะยาว
  3. ออกแบบ Flow การเข้า-ออกให้ไม่ติดขัด
    เช่น ใช้ทางลาดเวียน (Ramping), ระบบไฟทางเข้าอัตโนมัติ
  4. จัดโซนตามประเภทผู้ใช้
    เช่น แยกพื้นที่จอดผู้พิการ, EV, ผู้บริหาร, Delivery
  5. เตรียมพื้นที่สำหรับระบบประกอบอาคาร
    เช่น ห้องควบคุม CCTV, ระบบดับเพลิง, ระบบ EV Charger, ลิฟต์โดยสาร/รถ

ตัวอย่างกรณีศึกษา: อาคารจอดรถที่ประสบความสำเร็จ

  • สนามบินสุวรรณภูมิ – อาคารจอด 5 ชั้น รองรับมากกว่า 3,000 คัน ใช้ระบบบัตรอัตโนมัติ + บริการ Shuttle
  • ห้างสรรพสินค้าในเมือง – มักออกแบบ 6–8 ชั้น พร้อมระบบลิฟต์ EV, ระบบนำทางอัจฉริยะ
  • โครงการคอนโดในย่านใจกลางเมือง – มักสร้างอาคารจอด 4–5 ชั้นเฉพาะสำหรับผู้อยู่อาศัย และแยกทางเข้าออกจากส่วนหลัก

สรุป: สร้างอาคารจอดรถกี่ชั้นดี?

คำตอบไม่ได้อยู่ที่ “เลข” อย่างเดียว แต่คือการออกแบบให้เหมาะกับ “ความต้องการที่แท้จริง” โดยวิเคราะห์จากพื้นที่ ความถี่ในการใช้งาน กฎหมายผังเมือง งบประมาณ และความยืดหยุ่นในอนาคต

หากคุณกำลังวางแผนสร้างอาคารจอดรถ อย่าตัดสินใจจากขนาดของที่ดินหรือราคาเพียงอย่างเดียว แต่ควรเริ่มต้นจาก การวิเคราะห์ฟังก์ชัน และวางแบบร่วมกับวิศวกรผังเมืองและผู้เชี่ยวชาญระบบจอดรถโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณได้อาคารที่คุ้มค่า ใช้งานสะดวก และรองรับการเติบโตได้อย่างแท้จริง

บริการของเรา: ออกแบบและสร้างอาคารจอดรถทุกขนาด พร้อมที่ปรึกษาระบบครบวงจร

เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและก่อสร้าง อาคารจอดรถ ทุกประเภท ทั้งแบบคอนกรีต, โครงเหล็ก, อาคารจอดรถอัตโนมัติ และระบบ Hybrid พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่:

  • การศึกษาความต้องการพื้นที่จอดรถ (Feasibility Study)
  • การออกแบบ Lay-out พร้อมระบบจราจรภายใน
  • ระบบควบคุมการเข้าออกอัตโนมัติ / EV Charger / กล้องวงจรปิด
  • การบริหารจัดการและดูแลรักษาหลังการก่อสร้าง

📌 สนใจออกแบบอาคารตามกฎหมายระยะร่น? ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ! 🚀

สนใจสอบถามบริการสร้างโรงงาน สร้างโกดังเพิ่มเติม ติดต่อ Steelframebuilt ได้เลย!

#Steelframebuilt #สร้างโรงงาน #สร้างโกดัง #โรงงาน #โกดัง #รับสร้างโรงงาน #รับสร้างโกดัง #บริษัทรับสร้างโรงงาน

ช่องทางการติดต่อ